เปิดยุทธศาสตร์ด้านระบบบริหารจัดการภาครัฐเน้นกระชับ ลดขนาดภาครัฐ ปรับองค์กรบริการประชาชนเท่าเทียม CPI อยู่ในลำดับ 1 ใน 20 ของโลก
เปิดยุทธศาสตร์ด้านระบบบริหารจัดการภาครัฐเน้นกระชับ ลดขนาดภาครัฐ ปรับองค์กรบริการประชาชนเท่าเทียม CPI อยู่ในลำดับ 1 ใน 20 ของโลก
คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐตั้ง 5เป้าหมาย 8 ประเด็นยุทธศาสตร์ พัฒนาหน่วยงานรัฐเป็นองค์กรกระชับ บริการฉับไว
สร้างความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของภาครัฐไม่น้อยกว่า
80% จำกัดรายจ่ายบุคลากรภาครัฐไม่เกิน 30%
เพื่อให้ภาครัฐมีขนาดเล็กลง แก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมลดปมปัญหารวยกระจุกจนกระจายและแก้ปัญหาการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยอยู่ในลำดับ 1 ใน 20
นายพงศ์โพยม
วาศภูติ
ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2560 มาตรา 35
กำหนดว่าต้องมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ สิ่งที่อยากเห็นคือหน่วยงานภาครัฐเป็นของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ระบบงานภาครัฐมีมิติในเชิงอำนาจค่อนข้างสูง เน้นการบังคับบัญชาสั่งการ ใครอยากทำอะไรต้องมาขอรัฐ ถนัดควบคุมแต่ส่งเสริมคนไม่เป็น โดยเฉพาะภาคเอกชนมาขออนุญาตยากมาก เรื่องการบริการที่ล่าช้า
ข้อมูลไม่เชื่อมโยง ไม่ดูแลธุรกิจรายเล็กรายน้อยให้เดินเร็วแข่งขันคนอื่นได้ เน้นดูแลเฉพาะธุรกิจรายใหญ่
ปล่อยให้เกิดความเหลื่อมล้ำ คนรวยกระจุกคนจนกระจาย
สิ่งที่คณะกรรมการฯอยากเห็นคือภาครัฐมีขนาดกะทัดรัดเหมาะสมกับภารกิจ
มีสมรรถนะสูง มีโครงสร้างที่ยืดหยุ่น
มีขั้นตอนการบังคับบัญชาที่สั้น เปิดเผย โปร่งใส
ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า คณะกรรมการฯจึงกำหนด 5 เป้าหมาย 8 ประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อปรับสมดุลระบบบริหารจัดการภาครัฐ โดยจะบรรลุในอีก
20 ปีข้างหน้า ได้แก่ 1. สร้างความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการสาธารณะของภาครัฐไม่น้อยกว่า
80%
2. จำกัดรายจ่ายบุคลากรภาครัฐไม่เกิน 30% เพื่อให้ภาครัฐมีขนาดเล็กลง
โดยลดความซ้ำซ้อนและปรับภารกิจของหน่วยงานภาครัฐให้เหมาะสม 3.
เพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐจากการสำรวจของ IMD International Institute for Management
Development อยู่ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 10 ของโลก โดยการนำนวัตกรรม
เทคโนโลยี บิ๊กดาต้า
และระบบการทำงานที่เป็นดิจิตัลมาประยุกต์ใช้ปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล 4.การรับรู้การทุจริตของประเทศไทยอยู่ในลำดับ 1 ใน 20 Corruption Perception index:
CPI โดยส่งเสริมให้องค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ชุมชน และประชาชนร่วมสอดส่อง
เฝ้าระวัง และตรวจสอบการดำเนินการของภาครัฐ และ 5. ดัชนีนิติธรรมทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับสูงกระบวนการยุติธรรมการออกกฎหมายและการบังคับใช้กฏหมายเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ
นายพงศ์โพยม
กล่าวอีกว่า อีกประการที่ไม่อยากเห็นคือ หน่วยงานภาครัฐใช้ดุลพินิจคิดเอาเอง
โดยไม่คำนึงถึงข้อมูลข้อเท็จจริง ทั้งที่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไกล
เรามีระบบไอทีที่ทันสมัย มีเอไอ มีไอโอที
มีโรบอท มีบิ๊กดาต้าที่ควรเชื่อมโยงกัน ไม่ว่าจะเป็นการขออนุญาตขออนุมัติต่างๆ
ขอไปที่เดียวด้วยระบบออนไลน์ จบในการขออนุญาตที่เดียว
ข้อมูลเชื่อมโยงกันทุกหน่วยงาน ต้องการเอกสารเพิ่มเติม ก็ส่งทางไปรษณีย์ไป เราอยากเห็นการทำงานที่บูรณาการประชาชนไม่ต้องรอคิวโรงพยาบาลตั้งแต่ตีสี่ตีห้า โดยใช้ระบบเช็คอินออนไลน์ให้เป็นประโยชน์
การแจ้งเกิดแจ้งตาย ย้ายที่อยู่ก็เช่นเดียวกัน สามารถแจ้งทางออนไลน์
ระบบพวกนี้ใช้ในการบริหารงานองค์กร แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น