ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม นำเสนอ 4 ด้านควิกวิน ชงสภาพัฒน์
นายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์ กรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม |
ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม นำเสนอ 4 ด้านควิกวิน ชงสภาพัฒน์
คกก.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
เตรียมนำเสนอ 4 ด้านเร่งด่วน
ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสามารถทำได้ทันทีภายใน 2-3
เดือน เริ่มจากให้ปชช.ร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจได้ทุกแห่งทั่วประเทศ,
จัดให้มีทนายความประจำโรงพัก เพื่อเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาแก่ผู้ต้องหาที่ถูกจับ
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย, คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหา
โดยห้ามนำผู้ต้องหาไปร่วมนั่งแถลงข่าว และจัดให้มีการขอประกันตัวผู้ต้องหาชั่วคราวได้ในวันหยุดราชการ
นายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์
กรรมการและเลขานุการการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้มอบหมายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกอบศักดิ์
ภูตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ โดยมอบหมายงานให้คณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้านนำเสนอเรื่องปฏิรูปเร่งด่วน
ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและสามารถทำได้ทันที เพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สภาพัฒน์ฯ) นั้น ทางคณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมได้หารือกันแล้วว่า
จะสรุปแนวทางปฏิรูป 4 ด้านเร่งด่วน ส่งไปยังสภาพัฒน์ฯ เพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน
โดยแนวทาง 4 ด้านนั้น ประกอบด้วย การพัฒนากลไกช่วยเหลือและเพิ่มศักยภาพเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย
ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือน
จะเริ่มดำเนินการใน 2 ด้านต่อไปนี้ได้ทันที ด้านที่ 1. การอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถแจ้งความต่างท้องที่ที่สถานีตำรวจได้ทุกแห่งทั่วประเทศ
ไม่จำเป็นต้องแจ้งความกับสถานีตำรวจ ณ พื้นที่เกิดเหตุการณ์เหมือนเช่นที่ผ่านมา
เพื่อลดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ด้านที่ 2.
การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหา
โดยห้ามนำผู้ต้องหาไปร่วมนั่งแถลงข่าวด้วย เนื่องจากยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา
ที่มีสิทธิ์พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ให้ถือว่ายังไม่มีความผิดได้รับความเสียหาย
ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถใช้เป็นรูปถ่ายของผู้ต้องหามาแสดงได้เท่านั้น
นายชาญณรงค์
กล่าวอีกว่าเรื่องที่ 3 คือ การจัดให้มีทนายความประจำโรงพัก
โดยจัดหาทนายความจากสภาทนาย เพื่อเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาแก่ผู้ต้องหาที่ถูกจับ
โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้เอง ซึ่งในระยะ 2-3 เดือนแรก คาดว่าจะเริ่มทำได้จากจังหวัดละ 1-2 โรงพักนำร่องไปก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนมากขึ้น
และด้านที่ 4
คือ การจัดให้มีการขอประกันตัวผู้ต้องหาชั่วคราวได้ในวันเสาร์ และวันอาทิตย์
โดยมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ในวันหยุดราชการ ทำให้ผู้ต้องหาไม่ต้องนอนในที่คุมขังโดยไม่จำเป็นเหมือนที่ผ่านมา
ที่คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณการดำเนินการส่วนที่ 3 กับ 4
นี้ ในช่วง 2-3 เดือน
ประมาณ 10-20 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณของรัฐบาล
ว่าจะมีงบประมาณให้ในส่วนนี้หรือไม่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น